USA:เอ็นวิเดียคาดรายได้จะพุ่งขึ้น 233% ใน Q1 ขณะอุปสงค์ AI พุ่งสูง
22 ก.พ.--รอยเตอร์
บริษัทเอ็นวิเดีย ซึ่งเป็นบริษัทผู้ออกแบบชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้เปิดเผยผลประกอบการออกมาหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดทำการในวันพุธ โดยเอ็นวิเดียคาดว่ารายได้ไตรมาสแรกอาจจะพุ่งขึ้น 233% ซึ่งถือว่าสูงกว่าระดับ +208% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้เป็นอย่างมาก โดยรายได้ดังกล่าวจะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่สูงมากในชิปสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของเอ็นวิเดีย โดยรายงานผลประกอบการในครั้งนี้ส่งผลให้หุ้นเอ็นวิเดียพุ่งขึ้น 10% ในช่วงเย็นวันพุธหลังจากตลาดปิดทำการ ทั้งนี้ หุ้นเอ็นวิเดียเพิ่งปิดตลาดวันพุธด้วยการดิ่งลง 2.85% จากวันอังคาร หลังจากหุ้นเอ็นวิเดียรูดลงกว่า 4% ในวันอังคาร อย่างไรก็ดี หุ้นเอ็นวิเดียพุ่งขึ้นมาแล้วเกือบ 40% จากช่วงต้นปีนี้ และส่งผลให้หุ้นเอ็นวิเดียครองตำแหน่งหุ้นที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในดัชนี S&P 500 ในปีนี้ หลังจากหุ้นเอ็นวิเดียเพิ่งทะยานขึ้นเกือบ 240% ในปี 2023
อุปสงค์ในชิปสำหรับศูนย์ข้อมูลของเอ็นวิเดีย และอุปสงค์ในหน่วยประมวลผลกราฟฟิก (GPU) ของเอ็นวิเดียยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป ในขณะที่บริษัทหลายแห่งพยายามขยายการให้บริการ AI แก่ลูกค้า โดยเอ็นวิเดียถือเป็นผู้นำในตลาดชิป AI ทั่วโลก และลูกค้าของเอ็นวิเดียก็รวมถึงบริษัทไมโครซอฟท์ด้วย ทั้งนี้ การที่ราคาหุ้นเอ็นวิเดียพุ่งขึ้น 10% ในช่วงเย็นวันพุธส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของเอ็นวิเดียทะยานขึ้นกว่า 1.29 แสนล้านดอลลาร์ และส่งผลให้หุ้นบริษัทอื่น ๆ ในธุรกิจ AI ทะยานขึ้นในช่วงเย็นวันพุธด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทอาร์ม โฮลดิงส์ที่เป็นผู้ออกแบบชิป
เอ็นวิเดียรายงานว่า รายได้ในไตรมาส 4/2023 อยู่ที่ 2.210 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.062 หมื่นล้านดอลลาร์ และผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 5.16 ดอลลาร์ในไตรมาส 4 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.64 ดอลลาร์ ทั้งนี้ เอ็นวิเดียเคยรายงานในช่วงก่อนหน้านี้ว่า รายได้ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2023 อยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ราว 10%-20% และนักวิเคราะห์บางรายก็ตั้งข้อสงสัยว่า รายได้ของเอ็นวิเดียจะยังคงพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งแบบนี้ต่อไปได้อีกนานเพียงใด
เอ็นวิเดียคาดว่า รายได้ในไตรมาสปัจจุบันจะอยู่ที่ 2.40 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.217 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดว่าอัตรากำไรเบื้องต้นในไตรมาสแรกจะอยู่ที่ 77% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 75.6% ทั้งนี้ เอ็นวิเดียรายงานว่า ยอดขายในแผนกศูนย์ข้อมูลพุ่งขึ้น 409% สู่ 1.84 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปีงบดุลบัญชี ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้รายได้ของแผนกศูนย์ข้อมูลเคยเติบโตในอัตราใกล้ 280% ในไตรมาส 3/2023
เอ็นวิเดียได้ก้าวขึ้นมาครองตำแหน่งหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุดในตลาดหุ้นสหรัฐด้วย โดยขึ้นมาครองตำแหน่งดังกล่าวแทนที่บริษัทเทสลา ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยมูลค่าการซื้อขายหุ้นเอ็นวิเดียมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ราว 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อวันในช่วง 30 วันทำการสิ้นสุดวันที่ 20 ก.พ. ซึ่งสูงกว่ามูลค่าการซื้อขายหุ้นเทสลาที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อวันในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ ห่วงโซ่อุปทานของเอ็นวิเดียปรับตัวดีขึ้นในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี นายเจนเสน หวง ซีอีโอของเอ็นวิเดียกล่าวต่อนักวิเคราะห์ว่า ไม่มีทางที่เอ็นวิเดียจะสามารถตอบรับต่ออุปสงค์ได้อย่างสมเหตุสมผลในระยะอันสั้นนี้--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;