anteayer
เช้านี้ราคาทองคำทรงตัวเหนือระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์จากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง แนวโน้มขาขึ้นดูเหมือนจะยังถูกจำกัด ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากลงมาทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่บริเวณ 2,644-2,643 ดอลลาร์ ซึ่งแตะระดับดังกล่าวในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อช่วงเช้า ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินน้อยลง โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าเฟดจะระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ท่ามกลางสัญญาณว่าความคืบหน้าในการปรับลดอัตราเงินเฟ้อให้เข้าใกล้เป้าหมาย 2% นั้นหยุดชะงักลง ซึ่งในทางกลับกัน ปัจจัยดังกล่าวยังคงสนับสนุนให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสูงขึ้น และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลง นอกจากนี้ ดูเหมือนว่านักลงทุนจะเริ่มชะลอการลงทุน และอาจเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนการตัดสินใจนโยบายที่สำคัญของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนวันพุธนี้ โดยความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ คือการที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ทำให้ผู้ซื้อขายดอลลาร์สหรัฐยังคงต้องตั้งรับ นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ อาจยังคงให้การสนับสนุนราคาทองคำในระดับหนึ่ง อนึ่งนักลงทุนต่างจับจ้องไปที่การเปิดเผยดัชนี PMI ของทั่วโลกเพื่อมองหาโอกาสในระยะสั้น 📊 ปัจจัยทางเทคนิค: การปรับราคาทองคำทางเทคนิคทำให้ต้องระมัดระวัง ราคามีโอกาสผันผวนสูง 📉จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำที่ต่ำในรอบเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 2,644-2,643 ดอลลาร์ อยู่ในโซนที่มีการซื้อขายหนาแน่น หากการปรับลดต่อไปอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งเป้าไปที่ 2,625 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดประจำเดือนที่บริเวณ 2,614 ดอลลาร์ ตามลำดับ และแนวรับสำคัญที่ 2,605-2,600 ดอลลาร์ หากราคาทองคำทะลุลงมาต่ำกว่า 2,605 ดอลลาร์ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อขายที่มีแนวโน้มจะขาลง และเปิดทางให้เกิดการขาย หรือขาดทุนเพิ่มเติม(Panic sell) 📈ในทางกลับกัน ระดับ 2667 ดอลลาร์ในขณะนี้ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นอุปสรรคทันทีก่อนที่จะถึงระดับ 2,677 ดอลลาร์ ซึ่งหากสูงกว่านั้น ราคาทองคำอาจมุ่งเป้าไปที่การกลับตัวกลับขึ้นไปถึงระดับ 2,700 ดอลลาร์อีกครั้ง การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจขยายไปสู่จุดสูงสุดรายเดือนที่บริเวณ 2,726 ดอลลาร์ ซึ่งหากผ่านได้อย่างเด็ดขาด ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การเคลื่อนไหวที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะใกล้ต่อไปข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุนหมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง